Bookmark and Share

9.3.67

ปราสาทฮิเมจิ - Himeji Castle



รีวิวปราสาทฮิเมจิ - Himeji Castle 
ช่วงซากุระ

ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) ปราสาทที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดในญี่ปุ่น สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1400 เป็นปราสาทที่ไม่เคยถูกทำลายมาก่อนไม่ว่าจะเป็นช่วงสงคราม การเกิดแผ่นดินไหว ภัยธรรมชาติอื่นๆ ทำให้คงรูปของตัวปราสาทดั้งเดิมอย่างอย่างสมบูรณ์ ต่อมาได้รับการยกย่องและบันทึกเป็นมกดกโลกจากองค์การยูเนสโก้และยังได้เป็น 1 ใน 4 ปราสาทที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น 

ปราสาทฮิเมจิ มีพื้นที่โดยรอบกว้างขวาง มีอาคารน้อยใหญ่อยู่ภายในมากถึง 80 แห่งซึ่งเชื่อมต่อกันทั้งหมด การเดินเที่ยวนักท่องเที่ยวที่มาถึงจะต้องผ่านประตู Otemon เดินตามทางที่กำหนดไว้ ผ่าน จุดถ่ายรูปยอดนิยมของปราสาทฮิเมจิคู่กับต้นซากุระ จากนั้นที่สุดทางเดินจะต้องซื้อตั๋วสำหรับเข้าชมตัวปราสาทที่ตู้ขายตั๋วอัตโนม้ติภายในตัว ปราสาทฮิเมจิ จะมีบันไดแคบๆสำหรับเดินขึ้นและลง ที่ชั้นบนสุดของหอคอยจะมีช่องสำหรับดูวิวได้รอบทิศทาง สามารถมองออกไปไกลถึงตัวเมืองฮิเมจิอีกด้วย
เมื่อปี 2015 ที่ผ่านมาปราสาทฮิเมจิเพิ่งจะเปิดให้เข้าชมหลังจากผ่านการปิดซ่อมครั้งใหญ่มา ทำให้สภาพของปราสาทตอนนี้สวยงามและสมบรูณ์มากที่สุด
สำหรับช่วงเวลาชมซากุระที่ ปราสาทฮิเมจิ ซึ่งช่วงพีคที่แนะนำให้มาเที่ยวสุดคือช่วงประมาณ สัปดาห์ที่ 1-2 ของเดือนเมษายน 


การเดินทางมายังปราสาทฮิเมจิ

สามารถเดินทางมาง่ายๆ ด้วยรถไฟรถไฟ JR Rapid Line for Himeji จากสถานี Osaka เพียง 1 ชม. หรือจากเกียวโตก็สามารถนั่งรถไฟชินคันเซนมาได้เพียง 54 นาที สามารถจัดทริปเดินทางไปกลับจากโอซาก้าหรือเกียวโตได้

ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ (18 ปีขึ้นไป) 1,000 เยน / เด็ก 300 เยน / กรุ๊ป 30 คนขึ้นไป คนละ 800 เยน
สวน Himeji Keikoen : ผู้ใหญ่ (18 ปีขึ้นไป) 1,040 เยน / เด็ก 360 เยน

เวลาเปิด-ปิด
9.00 - 17.00 น. (ปลายเดือนเมษายน -สิงหาคม เปิดถึง 18.00 น.)
ปิดทุกวันที่ 29-30 ธันวาคม ของทุกปี

ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) ช่วงซากุระ

ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) ช่วงซากุระบาน

แผนที่ไปปราสาท Himeji


หลังจากที่ลงรถไฟแล้ว ให้เดินออกทางที่ Central exit จะออกไปสู่ถนนใหญ่ที่มุ่งหน้าสู่ปราสาท

หน้าตาสถานี JR Himeji ออกแบบสวยทีเดียว นึกว่าร้านกาแฟ 555 มาทรงเดียวคล้ายๆ กับที่ Kanazawa

หันหน้าออกจากสถานี จะเป็นถนนใหญ่ สามารถเห็นตัวปราสาทฮิเมจิได้เลย สามารถเดินไปถึงยังปราสาทได้ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที หรือถ้าไม่อยากเดิน สามารถขึ้น Himeji Loop Bus ได้ โดยเดินเลี้ยวซ้ายแยกด้านหน้าสถานี จะเป็นป้ายรถเมล์

ให้รอขึ้นรถที่ป้ายเบอร์ 6

ถ้ามาได้จังหวะ รอไม่นาน จะได้ขึ้นรถ Himeji Loop Bus ซึ่งจะวิ่งวนรอบปราสาทฮิเมจิ

เวลาวิ่งเริ่มตั้งแต่ 9.00 - 17.30 น. เสาร์อาทิตย์ ถึง 17.00 น. ออกทุกๆ ครึ่งชม. จอดทั้งหมด 8 ป้ายด้วยกัน คือ
1.Himeji station (Shinki Bus Center)
2.Himeji Castle Otemon
3.Himeji Post Office
4.The Museum of Art
5.The museum
6.Shimizu-bashi (The museum of literature)
7.Kokoen
8.Otemae

คนเยอะเต็มรถไม่ได้นั่ง แต่ไม่ทันจะเมื่อยก็ถึงแล้ว ลงป้ายที่ 2 Otemon คนลงเกือบหมด หลังจากลงแล้วก็เดินข้ามสะพานเข้าสู่ตัวโซนปราสาทได้เลย

ประตู Otemon Gate

เข้ามายังโซนสวนด้านใน ซึ่งมีต้นซากุระปลูกโดยรอบ (ตอนนี้ยังบานไม่พีค) โซนสวนโล่งๆ นี้ เป็นส่วนที่สามารถเข้ามาได้ฟรี ไม่เสียเงิน คนญี่ปุ่นนิยมมาปูเสือฮานามิกัน ช่วงเย็นๆ

ปราสาทฮิเมจิ สวยงามมากๆ หลังจากที่ปิดซ่อมไปหลายปี แล้วเปิดให้ชมใหม่ในปี 2015 (รูปนี่ถ่ายเมื่อปี 2016) จะเห็นได้ว่ายังมีบางส่วนที่ยังซ่อมแซมเล็กน้อย

จากนั้นเดินเลาะแนวต้นซากุระ ผ่านร้านขายของที่ระลึก ก็จะถึงจุดขายตั๋วเพื่อเข้าชมปราสาท

เวลาเปิดให้เข้าชมตามป้ายเลย

ซื้อตั๋วเข้าชมก้นก่อน ค่าเข้าชมผู้ใหญ่คนละ 1,000 เยน เด็ก 300 เยน ใส่แบงค์หรือหยอดเหรียญแล้วกดปุ่มเลือกเลย

ได้มาแล้วกับตั๋วเข้าปราสาท แต่เดี๋ยวก่อน ยังเข้าไม่ได้

ก่อนเข้าให้รับบัตรแดงตรงจุดที่ซื้อตั๋วก่อน (แจกเพื่อเป็นการจำกัดคนเข้าชมปราสาทต่อวัน บัตรนี้แจกหมดก็ไม่สามารถเข้าชมตัวปราสาทได้) เป็นบัตรที่ใช้คู่กับตั๋ว เก็บดีๆ ห้ามหาย ต้องแสดงอีกทีตอนจะเข้าตัวปราสาท

ตรงสวนด้านนอกยังไม่บลูม ต้องข้างในหลังจากซื้อตั๋วเข้ามาแล้ว มันแจ่มมากๆ

เส้นทางเดินเข้ามชมปราสาทใช้เวลาเดินไปยังตัวปราสาทประมาณ 10 นาที มีจุดแวะถ่ายรูปคู่กับซากุระเยอะทีเดียว

ซากุระเยอะมากๆ คนก็เยอะมากตามไปเช่นกัน

มาในส่วนของประวัติของปราสาทฮิเมจิกันบ้าง ปราสาทฮิเมจินี้ สร้างขึ้นในปีค.ศ.1346 โดยตระกูลอามามัตสึ ถูกครอบครองโดยหลายตระกูล ต่อมาจนปี 1945 เมืองฮิเมจิถูกระเบิดถล่มในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ตัวปราสาทไม่ได้รับความเสียหายใดๆ ปัจจุบันนี้ ได้รับการยกย่องให้เป็น World Heritage Site จาก UNESCO ในปี พ.ศ.2536

ส่วนอีกตำนานที่ได้รับการกล่าวขานกัน เกี่ยวกับที่นี่ คือ เรื่องผีนับจาน ซึ่งเป็นเรื่องราวของโอะกิคุ สาวใช้ของซามูไรที่ทำจานล้ำค่าของตระกูลแตกเลยถูกลงโทษด้วยการโยนลงในบ่อน้ำทั้งเป็นจนตาย ในเวลากลางคืนจะมีผู้ได้ยินเสียงผู้หญิงโหยหวนมาจากบ่อน้ำเป็นเสียงนับจานช้า ๆ จนครบเก้าใบ

เดินมาเรื่อยๆ เริ่มถึงประตูชั้นกลางแล้ว Ronomon Gate

และประตูสุดท้ายชั้นใสสุด Ninomon Gate จุดนี้ เจ้าหน้าที่จะมาเก็บบัตรแดง

ภายในตัวปราสาทให้ถอดรองเท้าเดินโดยจะมีถุงพลาสติกแจกให้ใส่แล้วถือไป ด้านล่างของปราสาทจะมีโมเดลจำลองตัวเมืองฮิเมจิในสมัยก่อน

คนเยอะมากๆ เดินแบบไหลกันไป มีบางจุดที่ต้องขึ้นบันไดไม้ชันๆ ผู้สูงอายุแนะนำรออยู่ชั้นล่างๆ ส่วนไฮไลท์พีคๆ คือ การขึ้นไปชมวิวบนยอดด้านบนปราสาท จะเห็นวิวสวยงามมุมกว้างๆ ของตัวเมืองฮิเมจิ

หลังจากที่บูรณะครั้งใหญ่ไปแล้ว สภาพดูดีมากๆ ถือเป็นสิ่งก่อสร้างสมัยโบราณอายุเก่าแก่เกือบๆ 7 ร้อยปี และยังมีสภาพสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่ง

ตรงบริเวณรอบๆ ตัวปราสาท จะมีซากุระพันธุ์ย้อย สวยงามมากมายให้ได้ถ่ายรูป


แนะนำกันเลยกับปราสาท Himeji ปราสาทที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น พีคจัดๆ ช่วงซากุระนี้เลย