Bookmark and Share

19.6.60

พาเที่ยวหุบเขานรกจิโกกุดานิ (Jigokudani) และ Oyunuma



พาเที่ยวหุบเขานรกจิโกกุดานิ (Jigokudani) และ Oyunuma

พาเที่ยวหุบเขาจิโกกุดานิ (Jigokudani) หรือหุบเขานรกแห่งเมือง Noboribetsu หุบเขาแห่งนี้ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Shikotsu-Toya ซึ่งฉายาความเป็น "นรก" ของหุบเขานี้ มาจากการที่มีควันพวยพุ่งอยู่ตลอดเวลา ซึ่งตรงจุดนี้ ถือเป็นจุดต้นกำเนิดน้ำพุร้อนออนเซนที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นในภูมิภาคฮอกไกโด เข้าชมได้ฟรี ตลอดปี สามารถเดินทางมาได้เช้าเย็นกลับจากซัปโปโร
วิธีเดินทางมายังเมือง Noboribetsu


หุบเขานรกจิโกกุดานิ (Jigokudani) เมือง Noboribetsu

สำหรับเส้นทางเดินเขา จะมีหลายเส้นทางให้เลือก ในทริปนี้ เดินจากสีส้ม ขึ้นไปสีเขียว จากนั้น ต่อสีม่วงแล้วลงทางสีแดงกับชมพู เรียกได้ว่าจัดเต็ม (เส้นทางสีฟ้า ไม่เลือกเดินเพราะมีความชันมาก ยากต่อการเดินในสภาพที่มีหิมะหนา ถ้ามาเที่ยวในฤดูอื่น สามารถเดินได้ เพราะประหยัดเวลากว่า สำหรับในหน้าหนาว หิมะตก การเดินลงจากเส้นทางสีแดง ทำได้ง่ายกว่า ใช้เวลาน้อยกว่า ถึงแม้ว่าระยะทางจะมากกว่าก็ตาม) ส่วนผู้สูงอายุ แนะนำแค่ช่วงสีส้มพอ เพราะช่วงสีเขียวต้องเดินขึ้นบันไดหลายสิบชั้นและมีความชันระดับหนึ่ง

ระยะทางและเวลาเดินโดยประมาณ ในทริปที่เดินลูปใหญ่ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

ก่อนขึ้นก็แวะเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยกันก่อน ห้องน้ำที่นี่ เป็นเอกลักษณ์คือ จะมีหน้ากากรูปยักษ์น้ำเงิน ยักษ์แดง แปะไว้อยู่ ห้องน้ำชายยักษ์น้ำเงิน ห้องน้ำหญิงยักษ์แดง น่ารักมากๆ 555

จากนั้นเริ่มต้นกันตรงจุดถ่ายภาพมหาชนกับป้าย Noboribetsu Jigokudani

จากนั้นเดินตามเส้นทางสีส้ม เข้าไปบริเวณหุบเขา เราจะสามารถเห็นไอกำมะถันพวยพุงออกมาตลอดเวลา บางจุดก็จะมีบ่อโคลนเดือดซึ่งเกิดจากความร้อนใต้พิภพผุดขึ้นมาไม่ขาดสาย ถ้าใครเหม็นกลิ่นกำมะถันก็แนะนำให้ใช้หน้ากากอนามัยหรือผ้าเช็ดหน้ามาปิดจมูก

วิวสวยมากๆ การเดินชมที่นี่ ต้องทำตามคำแนะนำตามป้ายอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดอันตราย


ข้อดีของการมาเที่ยวที่หุบเขานรกหน้าหนาว คือ เราจะได้วิวของหิมะที่ปกคลุมภูเขา ตัดกับความร้อยที่พวยพุ่งออกมาจากใต้ดิน (มาหน้าอื่น จะเห็นเพียงเป็นยอดเขาดิน ที่มีไอขึ้นมาเฉยๆ ไม่สวยงามเท่านี้)

ที่ใจกลางหุบ จะมีสะพานไม้เชื่อมต่อไปยังด้านใน ซึ่งจะเปิดเฉพาะเวลา อย่างวันนี้ มีควันไอกำมะถันออกมามาก เจ้าหน้าที่จะไม่ให้เข้าไป

ชมความแปลก สวยงามของธรรมชาติกันไปแล้ว จากนั้นเดินต่อตามเส้นทางสีเขียว และม่วง เพื่อไปยัง Oyunuma กันต่อ ระหว่างทางจะมีจุดแวะพักผ่อน นักท่องเที่ยวจะนิยมมานั่งพัก ปิคนิค หรือเล่นหิมะ ปาหิมะเล่นกันที่นี่

เดินไปตามเส้นทางสีม่วงไม่ไกล

จะพบบ่อน้ำร้อนออนเซนกลางหุบเขาซึ่งจุดนี้ มีชื่อเรียกว่า Oyumuma ซึ่งบ่อนี้จะมีอุณหภูมิอยู่ที่ 50 C  ถ้าเราเดินลงไปเรื่อยๆก็จะเป็นบ่อเล็กๆ ซึ่งบางบ่อมีอุณหภูมิที่ร้อนกว่า นอกจากนั้นยังมีบ่อโคลนเดือดอีกด้วย น้ำที่ไหลจาก Oyumuma จะเป็นลำธารที่มีความยาวหลายร้อยเมตร เรียกว่า Oyunumagawa สามารถแช่เท้าพร้อมชมทิวทัศน์ที่งดงามได้อีกด้วย

เสร็จแล้วก็เดินลงเขาตามเส้นทางสีแดง ที่มีความชันน้อยมากๆ เดินสบาย สูดอากาศบริสุทธิ์กันไป

แพล็บเดียวไม่เกิน 10 นาทีก็ลงมาถึงยังจุดเริ่มต้นตรง Tourist Information


แวะซื้อของที่ระลึกติดไม้ติดมือกันไปหน่อย

แมกเน็ต ยักษ์แดง ยักษ์น้ำเงิน

และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งจะมีขายเฉพาะที่นี่ แนะนำกันเลยกับ หุบเขานรกจิโกกุดานิ ห้ามพลาดเด็ดขาด