Bookmark and Share

5.7.61

รีวิวพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอูมิโอกินาว่า - Churaumi Aquarium Okinawa

รีวิวพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอูมิ โอกินาว่า 
Churaumi Aquarium Okinawa

พาเที่ยว พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอูมิ โอกินาว่า (Churaumi Aquarium Okinawa) ที่เที่ยวชื่อดังอันดับ 1 ของเกาะโอกินาว่า ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะ อควาเรียมแห่งนี้ถือเป็นไฮไลท์สำหรับทริปทีเดียว เพราะมีตู้ปลาขนาดใหญ่อันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งสามารถจุน้ำทะเลได้ถึง 7,500 ลูกบาศก์เมตร โดยมีดารานำอย่างเจ้าฉลามวาฬตัวใหญ่ 2 ตัวด้วยกันว่ายโชว์ตัวไปมา จนเป็นรูปภาพติดตาตามนิตยสารท่องเที่ยวทั่วโลก นอกจากนั้น ยังมีปลากระเบนราหูตัวใหญ่ยักษ์ หาชมได้ยากหลายตัวทีเดียว นอกจากนั้น ยังมีตู้ปลาอื่นๆ มากมาย เช่น ปลาทะเลเขตร้อน ทะเลปะการัง ทะเลฉลามอันตรายให้ได้ชมกันอย่างจุใจ ได้ทั้งความเพลิดเพลิน และความรู้ไปพร้อมๆ กัน ส่วนนอกตัวอาคารอควาเรียม ยังมีโชว์ปลาโลมาแสนรู้ สระพะยูน สระเต่าทะเล และหาดทรายชื่อดังอย่างหาด Emerald Beach ใกล้ๆ อีกด้วย 

เวลาเปิดปิด : เดือนตุลาคม - กุมภาพันธ์ 8.30 - 18.30 น. / มีนาคม - กันยายน 8.30 - 20.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,850 เยน / นักเรียนม.ปลาย 1,230 เยน / นักเรียนม.ต้นและประถม 610 เยน / เด็กต่ำกว่า 6 ปีเข้าชมฟรี
จองออนไลน์ : รับส่วนลดกว่า 100 บาท (จองตามลิ้งค์ด้านล่างเท่านั้น)
วิธีเดินทาง : รถส่วนตัว จากสนามบิน Naha ใช้เส้นทางสาย 331 - 58 - 449 ใช้เวลาประมาณ 1.5 ชม.
หรือ นั่งรถบัสด่วนสาย 117 จากสนามบิน Naha ถึงอควาเรียมเลย ใช้เวลาเดินทาง 2 ชม. ค่าโดยสาร 2,500 เยน ขึ้นจากป้ายเบอร์ 2 หน้าเทอร์มินัลหลัก




พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอูมิ โอกินาว่า (Churaumi Aquarium Okinawa)

ตัวอาคาร พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอูมิ (Churaumi Aquarium) ตั้งอยู่ส่วนของ Ocean Expo Park สำหรับคนที่เช่ารถขับมาเอง แนะนำจอดที่อาคารจอดรถ P7 จะเดินใกล้สุด (ค่าที่จอดรถฟรี)

แผนที่ตัวอควาเรียม มี 4 ชั้นด้วยกัน เริ่มจากชั้นบนแล้วเดินลงลึกไปเรื่อยๆ 

ด้านหน้าอคาเรียม มีรูปปั้นฉลามวาฬ เท่าตัวจริงอยู่ แวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกได้

ลงบันไดเลื่อนไป Step 1 แล้วเข้าประตูกันไปเลย

ซื้อตั๋วกันก่อน ราคาตามรูป เวลาให้เข้าครั้งสุดท้ายคือ 1 ชม. ก่อนที่อควาเรียมจะปิด

ตั๋วน่ารักทีเดียว อย่าลืมเก็บเป็นที่ระลึก

จุดแรกที่เข้ามาเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ เป็นบ่อสัตว์น้ำปะการัง ในนี้จะมีปลาดาวสองสายพันธุ์ และปลิงทะเล ตัวเล็กๆ ให้เด็กได้สัมผัสกัน

ต่อมาเป็นตู้ปลาเล็ก Coral Reef Gallery รวมปลาตามแนวปะการังหลายสายพันธุ์ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นปลาการ์ตูน ปลานกแก้ว ปลาไหลมอร์เร่ย ปลาปักเป้า ปลาสิงโต และเต่าทะเล 


เต่าทะเล (Sea Turtle)

ปลาปักเป้า (Puffer Fish) ปลาที่มีพิษในตัว ซึ่งชาวญี่ปุ่นมักจะนำมาทำเป็นซาซิมิ ราคาสูง ต้องใช้เชฟที่มีใบอนุญาตในการแล่เท่านั้น พิษของปลาปักเป้านั้นมีความรุนแรงมาก อาจถึงตายได้ถ้ารับประทานเข้าไป และพิษไม่สามารถหายไปด้วยการทำอาหารด้วยความร้อน จึงควรใช้ความระมัดระวังในการรับประทานอย่างยิ่ง

ปลาสิงโต (Lion Fish) เป็นปลาที่มีหนังปกคลุมไปด้วยกระดูก มีครีบอกยาวถึงครีบหาง พบตามแนวชายหาดและปะการัง เป็นปลาที่มีความสามารถในการสืบพันธุ์สูง ตัวเมียสามารถวางไข่ได้ถึงปีละ 2 ล้านฟอง 

ต่อมาเป็นตู้เล็กๆ ระหว่างทาง มี แมงกระพรุน (Jelly Fish) สัตว์ที่บรรดาอควาเรียมทั้งหลายมักจะมาใส่ในตู้แล้วจัดไฟให้เรืองแสง เพื่อให้เห็นได้ชัดๆ

ปลาหมึกสดๆ อย่างที่เราเอามาทานกัน นางว่ายน้ำกันใหญ่ เพิ่งจะได้เห็นชัดๆ กันที่นี่

ปลานีโม (Nemo Fish) ปลาการ์ตูนขวัญใจเด็กๆ อาศัยอยู่ในดอกไม้ทะล ซึ่งมีเข็มพิษแต่ไม่อันตรายต่อนีโม ซึ่งปลานีโมใช้ในการป้องกันตัวและหาสาหร่ายเล็กๆ ในบริเวณนั้นเป็นอาหาร

ส่วนเจ้าตัวนี้ เป็นดาราเอกอีกตัวนึงของอควาเรียมและโอกินาว่า เห็นเอามาทำเป็นของที่ระลึกเยอะทีเดียว เจ้าตัวนี้เรียกว่า Garden Eel หรือ ปลาไหลสวน เป็นปลาไหลขนาดเล็กที่ฝังตัวอยู่ในทราย และจะโผล่ขึ้นมาเพื่อหาอาหารซึ่งเป็นสัตว์ขนาดเล็กเช่น แพลงตอน กุ้งตัวเล็กๆ ปูจิ๋ว ในอควาเรียมนี้ จะเห็นเจ้าปลาไหลสวน โยกหัวไปมา เห็นแล้วนึกถึงงูบนหัวเมดูซ่า ตลกดีทีเดียว 555

จากนั้นก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย กับ ตู้ปลาขนาดยักษ์ (Kuroshio Sea) ตู้ปลาที่มีฉลามวาฬแหวกว่ายอยู่ ความใหญ่โตของตู้ปลานี้ อลังการมากๆ เรียกได้ว่า พอเห็นแล้วถึงกับ Stunt ไปหลายวิทีเดียว 555 
 ชมคลิปฉลามวาฬ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอูมิ (Whale Shark Churaumi Aquarium)
สังเกตดีๆ ส่วนใหญ่ฉลามวาฬจะว่ายทวนเข็มนาฬิกา (วนซ้าย) ตลอด

ยืนดูเพลินมากๆ ฉลามวาฬ หรือ Whale Shark ถือว่าเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ความยาวเมื่อโตเต็มที่ อยู่ที่ 12.65 เมตร หนักถึง 21.5 ตัน เป็นปลาใจดี เคลื่อนที่ช้า กินแพลงตอนและสัตว์ทะเลขนาดเล็กเป็นอาหาร 

ฉลามวาฬพบได้ในทะเลเขตร้อนและอบอุ่น อาศัยอยู่ในทะเลเปิด มีอายุขัยประมาณ 70 ปี

เมื่อเข้าไปยืนดูชิดๆ ขอบตู้ จะเห็นฉลามวาฬได้ชัดเจนมากๆ เป็นปลาที่แอดมิน ชอบมากที่สุดชนิดนึงทีเดียว และจุดหมายที่มาโอกินาว่า ก็เพื่อมาดูฉลามวาฬโดยเฉพาะ 555

หันหลังกลับไปดู คนเยอะมากกกก ทุกคนดูตื่นเต้น มีความสุขกันสุดๆ ที่ได้เห็นเจ้าฉลามวาฬ

ระหว่างรอเวลาให้อาหารฉลามวาฬรอบ 15.00 น. ก็มาหาอะไรทานรองท้องกันก่อน ตรงนี้มีร้านอาหารของอควาเรียมด้วย สำหรับใครที่ทำการ Reserved Seats ไว้จะได้โต๊ะติดกระจกตู้ปลา ทานข้าวชิลๆ ชมวิวปลาว่ายไปว่ายมาเรื่อยๆ 

เมนูอาหาร มีทั้งเมนูอาหารพื้นเมืองอย่างข้าวหน้าหมูสามชั้น และ Taco Rice / Taco Ball และ สปาเก็ตตี้ ขนมปังแป้งนานกับไส้กรอก

เครื่องดื่มเป็นน้ำผลไม้โซดา หลายชนิดทีเดียว

ข้าวหน้าหมูสามชั้น อารมณ์ประมาณ หมูในไข่พะโล้บ้านเรา รสชาติถูกปากทีเดียว

Taco Rice อร่อยอยากให้ลอง เป็นเครื่อง Taco ที่เป็นผักต่างๆ ราดด้วยซอส ผสมเนื้อบด ซึ่งแทนที่จะใส่ไปในแป้ง Taco กรอบๆ ปกติ ก็เอามาราดข้าว อร่อยไปอีกแบบ แนะนำให้ลองเพราะหาทานได้ที่โอกินาว่าเท่านั้น

ขนมปังแป้งนานกับไส้กรอกรมควันหนังกรอบ อร่อยง่ายๆ 

 Onion Rings ทอดมาใหม่ๆ กรอบๆ มาก ไม่อมน้ำมัน

น้ำผลไม้โซดา แก้วซ้ายน้ำมะม่วง แก้วขวาน้ำมะนาว

ทานเสร็จก็มารอดูโชว์ให้อาหารฉลามวาฬกัน ในแต่ละวัน จะมี 3 รอบ คือ 9.30 / 15.00 / 17.00 น.

พอใกล้เวลาคนก็มายืนรอดูเยอะมากกว่าปกติ

การให้อาหาร คนเลี้ยงจะเป็นคนให้โดยการโยนปลาและกุ้งตัวเล็กๆ ลงไปในน้ำให้ฉลามวาฬกิน

โดยฉลามวาฬ เป็นปลาที่กินอาหารโดยวิธีการกรองกิน คือ อ้าปากเอาน้ำทะเลและอาหารเข้าไปแล้วกรองเอาน้ำทะเลออก

โดยมีอัตราการดูดน้ำเข้าปากถึง 30 - 40 ลิตรต่อคำทีเดียว (ประมาณน้ำมันรถ 1 ถัง)
 คลิปให้อาหารฉลามวาฬ หาชมได้ยาก

จบจากตู้ปลาใหญ่ยักษ์ ก่อนออกก็แวะชมกันต่อที่ Shark Research Lab ที่นี่นอกจากจะได้เห็นปลาฉลามแล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์เล็กที่ให้ความรู้ได้ดีมาก ตู้แรกนี้เป็นตู้สะสมกระดูกกรามของฉลามสายพันธุ์ต่างๆ ให้เราได้เห็นชัดๆ 

แต่ละตู้จะมีช่องสำหรับให้เราเอามือแหย่เข้าไปสัมผัสกับเขี้ยวคมๆ ของฉลามได้ ฉลามสายพันธุ์กินเนื้อ ดุร้าย จะมีเขี้ยวและฟันที่แหลมคม ซ้อนเป็นชั้นๆ เอานิ้วจิ้มไปมีสะดุ้ง

ส่วนกรามอันนี้เป็นของฉลามวาฬ ที่ตัวยังไม่ใหญ่นัก ฉลามวาฬจะไม่มีเขี้ยวแหลมคม แต่จะเป็นเหมือนฟันเล็กๆ ละเอียดๆ ทื่อๆ เรียงเป็นปุ่มๆ ตลอดแนวกราม

ตู้ปลาฉลามในส่วนของ Shark Research Lab 


กรามขนาดจำลองของ Megalodon ฉลามยักษ์ดึกดำบรรพ์ ซึ่งสูญพันธุ์ไปแล้ว ขนาดลำตัวยาวประมาณรถเมล์คันใหญ่ๆ อ้าปากสูงถึง 2 เมตร 

แผ่นหนังของฉลามขาวยักษ์ แผ่นนี้ยาวประมาณ 3.5 เมตร

เห็นครั้งแรก อันซ้ายนึกว่า มดลูกปลา 555 จริงๆ แล้ว อันซ้ายคือสมองของฉลาม ส่วนอันขวาคือสมองของปลาโลมา เพราะฉะนั้น โลมาฉลาดกว่าเห็นๆ 55

มาดูแผนภาพการ Featuring ของฉลามกัน 55 ปลาฉลามจะมีการสืบพันธุ์ 2 แบบ คือ แบบที่ออกลูกเป็นไข่เช่นปลาฉลามกบ และออกลูกเป็นตัวเช่น ฉลามขาว

ไข่ของปลาฉลาม จะเห็นได้ว่ามีตัวอ่อนฉลามดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ภายในอย่างชัดเจน

ก่อนออกจากอควาเรียม จะเป็นการเดินออกผ่านทางอุโมงค์ที่เจาะผ่านตู้ปลายักษ์

ตรงจุดนี้ เราจะได้ลอดท้องฉลามวาฬ สะเดาะห์เคราะห์กันอีกด้วย 55555555
งวดนี้แอดถูกหวยแน่นอน หุหุ

กระเบนราหู (Manta Rays) ปลากระเบนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อโตเต็มที่จะมีความยาวปีกถึง 6.7 เมตร น้ำหนักถึง 1,350 kg พบได้ตามเขตร้อนทั่วโลก มีหลังสีดำ ท้องสีขาว มีลักษณะโดดเด่นคือ ครีบคู่หน้าที่พัฒนาเป็นเหมือนเขา โดยมีหน้าที่โบกพัดน้ำเข้าปากเพื่อกินแพลงตอน (อย่างนี้นี่เอง)

ชมกันจุใจ ก็ได้เวลาช้อป ร้านขายของที่ระลึกของอควาเรียม คนเยอะยังกะแจกฟรี 555 

ที่นี่เป็นที่ๆ ขายตุ๊กตาฉลามวาฬมากแบบ มากไซส์ที่สุดก็ว่าได้ 



เลือกไม่ถูกทีเดียว น่ารักไปหมด


กระเป๋าเป้ฉลามวาฬ สีพาสเทล

โมเดลสายการบิน Japan Airlines ลายฉลามวาฬ อัตราส่วน 1:130 มีสองสี ราคาประมาณ ลำละ 2 พันบาทนิดๆ ใครสะสมก็จัดกันไป หาซื้อที่ไหนไม่ได้

โมเดลฉลามวาฬ สเกลจริง งานดี วัสดุดี

ของที่ระลึกน่าซื้ออีกแบบนึง คือ แมกเน็ต ฉลามวาฬ (อันบน) ด้านในมีทรายของโอกินาว่า ซึ่งเป็นทรายรูปดาว 5 แฉกบรรจุอยู่ด้วย

หรือจะซื้อเป็นแบบขวดกลับไปเลยก็ได้ ซึ่งทรายรูปดาวนี้ มีชื่อเรียกว่า Hoshi no Suna พบได้มากที่สุดที่เกาะ Teketomi และ Iriomote ซึ่งกระบวนการเกิดทราย 5 แฉกนี้ เกิดจากการสลายตัวของสิ่งมีชีวิตในตระกูล Foraminifera ซึ่งเป็นสัตว์เซลล์เดียว ที่มีเปลือกแข็งหุ้มอยู่

ตัวปั๊ม

ที่ทับกระดาษ

ขนมทาร์ตมันม่วง Beni-imo Tart เวอร์ชั่นฉลามวาฬ มีขายที่นี่ที่เดียว


เซมเบ้ฉลามวาฬ กล่องเหล็กน่ารักทีเดียว

สาหร่ายแปะข้าวปั้น ทำเป็นรูปสัตว์ทะเล ไม่มีใครครีเอตเท่าคนญี่ปุ่นอีกแล้ว 

Sea Wind ครีมทามือที่ Shiseido ทำให้ทางพิพิธภัณฑ์ มีขายที่นี่เท่านั้น

แฟ้มใส่เอกสาร 3 มิติ น่ารักมากกกก

กล่องใส่การ์ด นามบัตร

สมุดโน้ต

เข็มกลัด 

ปากกาลายปลาน่ารัก มีขายเฉพาะที่นี่เช่นกัน

ดินสอ งอได้ อันนี้แปลกดี ซื้อไปฝากลูกฝากหลานน่าจะชอบ

ที่คั่นหนังสือฉลุลาย เหมาะสำหรับซื้อฝากผู้ใหญ่

พลาสเตอร์ยาหลอกเด็ก และผู้ใหญ่บางคน 55 ลายแจ่มๆ

กระติกน้ำสแตนเลส เก็บร้อน เก็บเย็น

ตุ๊กตาเกาะแก้ว ชงชา

มาโซนเสื้อผ้ากัน มีทั้งของเด็กและผู้ใหญ่


ถุงเท้ามี 3 ลาย คือ ฉลามวาฬ นีโมและปลาไหลสวน

ถุงผ้าพับได้ ของแม่บ้าน


ปิดท้ายด้วยกาชาปอง ที่มีเฉพาะที่นี่เช่นกัน แบบนี้ 400 เยน

ส่วนแบบนี้ 200 เยน คนรุมหยอดกันไม่หยุด  อควาเรียมรวยเละ 55


ออกจากร้านค้า ก็เป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ที่เนื้อหา ความรู้ไม่เล็กทีเดียว มีแบบจำลอง ซากปลา กระดูกของจริงให้ชมกันเยอะแยะ

โครงกระดูกปลาวาฬสเปิร์ม นี่ถ้าไม่อ่านป้ายนึกว่า กระดูกไดโนเสาร์ 


ส่วนตัวนี้ หน้าตาน่าเกลียดหน่อย เรียกว่า ฉลามเมกาเม้าท์ (Megamouth Shark) เป็นปลาฉลามน้ำลึกขนาดใหญ่ที่พบได้ยากมาก หน้าตาเหมือนสัตว์ประหลาด ยาวประมาณ 4.5 เมตร หนัก 3-4 ตัน กินแพลงตอนเป็นอาหาร ปากของฉลามเมกกาเม้าท์ จะมีฟันซี่เล็กๆ เหมือนเข็ม เรียงกัน 7 แถว 


ส่วนตัวสุดท้ายสำหรับวันนี้ คือ ปลาออร์ฟิช (Oarfish) มีลักษณะรูปร่างคล้ายพญานาคของไทย เมื่อโตเต็มที่จะยาวถึง 15 เมตร ถือเป็นสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังที่ยาวที่สุดในโลก อาศัยในน้ำลึก 50 - 250 เมตร พบเห็นได้ยากมากๆ ในตอนเป็น มักจะเจอตอนที่ใกล้ตายแล้วมาเกยที่ชายหาดเป็นส่วนใหญ่ มีรูปถ่ายมากมาย ที่ทำให้เข้าใจผิด คิดว่าเป็นพญานาคที่จับได้ในแม่น้ำโขง ซึ่งความจริงแล้ว จับได้ในน่านน้ำลาว โดยทหารสหรัฐ คนไทยหนอ 55