เทศกาลหิมะซัปโปโร
Sapporo Snow Festival
เทศกาลหิมะซัปโปโรครั้งที่ 67 (Sapporo Snow Festival) ที่ผ่านมา งานนี้จัดขึ้นทุกปีประมาณช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ สำหรับปี 59 ที่ผ่านมานั้น จัดระหว่างวันที่ 5 - 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำหรับใครที่วางแผนจะไปปีหน้านั้น แนะนำเข้ามาอ่านกันเลย เทศกาลนี้เป็นเทศกาลใหญ่ที่สุดของเมืองซัปโปโร โรงแรมที่พักและตั๋วเครื่องบินมักจะเต็มกันรวดเร็วมาก แนะนำในจองที่พักล่วงหน้าและซื้อตั๋วเครื่องบินอย่างน้อย 6 เดือน ไม่งั้นพลาดได้ง่ายๆ
เทศกาลหิมะซัปโปโร - Sapporo Snow Festival |
โปสเตอร์งานประจำปีนี้ ปกติแล้วกำหนดการจัดงานจะออกล่วงหน้าประมาณ 6 เดือนเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีเวลาเตรียมตัวล่วงหน้า |
บริเวณ Odori Site จะมีงานแกะน้ำแข็งเล็กน้อย ถ้าอยากชมเยอะๆ แนะนำให้ไปที่ Susukino Site ตอนกลางคืน |
ตรงกลางสวนจะมีสโลปสกีขนาดใหญ่ สำหรับการจัดแข่งขันสกีผาดโผนของนักเรียนญี่ปุ่น แต่ละคนก็ฝีมือเทพๆ ทั้งนั้น แนะนำให้แวะชม |
ถัดมาเป็นรูปแกะสลักหิมะไฮไลท์ของงานปีนี้ ผลงานนี้มีชื่อว่า "Attack on Titan" |
ผลงานชิ้นต่อไปจากประเทศไต้หวัน มีชื่อว่า "Queen's Head and the Pingxl Sky Lantern Police Box" |
ผลงานต่อไปที่สวยงามมากๆ จากประเทศมาเก๊า ได้แก่ ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอลล์ (Ruins of St.Paul's) |
ส่วนจุดนี้ คือ The Winter's Tale in Sapporo |
ระหว่างทางเดินในจุดต่างๆ จะมีร้านค้าขายของมากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายอาหาร |
มีให้เลือกเยอะมาก สามารถทานอิ่มได้เลย ไม่ต้องไปหาร้านข้างนอก ไม่ว่าจะเป็นราเมง เกี๊ยวซ่า ไก่ทอด |
อาหารทะเลเฝา ราคาเท่าตลาดปลานิโจ |
ขาปูนึ่งร้อนๆ |
ไก่ทอดคาราเกะ ลูกชิ้นขาปู |
ชีสสติ๊ก ไส้กรอก เฟรนซ์ฟรายด์ |
กล้วยหอมเคลือบช็อคโกแลต |
เกาลัดคั่วร้อนๆ เกาลัดลูกใหญ่ประมาณมะนาวบ้านเรา |
นอกจากของกินแล้ว ยังมีของที่ระลึกด้วย ซุ้มนี้เป็นตุ๊กตารัสเซีย มีสาวรัสเซียมาขายด้วยตัวเองเลย |
ของที่ระลึกจากงานเทศกาลหิมะ |
แสตมป์สวยๆ น่าสะสมมาก |
ไปชมกันต่อกับเทศกาลหิมะ นอกจากรูปปั้นหิมะขนาดใหญ่แล้ว ตามทางเดินและลานกว้างของสวนโอโดริจะมีรูปปั้นขนาดเล็กมากมายให้ชม |
ส่วนใหญ่จะเป็นการ์ตูน และอนิเมะ |
หรือไม่ก็สถานที่สำคัญต่างๆ ในญีปุ่น |
อังปังแมน |
คนเยอะทีเดียว เวลาเดินต้องระวังลื่นกันด้วย เพราะหิมะจะละลายเป็นน้ำแข็ง พอเหยียบซ้ำจะลื่นได้ง่ายๆ |
Ultraman |
Snoopy |
อสูรน้อยคิทาโร่ |
แก๊งดิสนีย์ |
เวทีรถไฟชินคันเซน |
เดินกันไปจนสุดถึงเวที Dragon Ball เวทีนี้จะมีการแสดงของนักเรียนสาวชาวญี่ปุ่น ออกมาเต้นกัน คนเยอะมาก |
เดินไปจนสุดทางจะถึบริเวณที่เค้าจัดแข่งขันแกะสลักหิมะประจำทุกปี |
มีทีมร่วมเข้าแข่งขันจากทั่วโลกรวมทั้งทีมไทยด้วย |
ตอนนี้ ผู้เข้าแข่งขันกำลังทำงานกันอย่างขะมักเขม้น |
บางทีมก็ทำเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว |
ผลงานของทีมไทยปีนี้ ปั้นเป็นรูปหนุมาน จะเห็นได้ว่า เค้าจะเตรียมโมเดลจำลองขนาดเล็ก แล้วแกะสลักตาม (มีแบบนี้ทุกทีม) |
มังกรสวยๆ ผลงานจากทีมมาเก๊า |
คลื่นยักษ์จากประเทศอินโดนีเซีย |
สวยแบบเรียบๆ จากประเทศฮาวาย |
ผลงานจากทางมาเลเเซีย |
ใครที่ชมภาคกลางวันแล้ว (ใช้เวลาเดินไม่เกิน 2 ชั่วโมง) แนะนำให้จัดทริปเที่ยวชม หอนาฬิกาซัปโปโร (Saporo Clock Tower) และ ที่ทำการรัฐบาลฮอกไกโดเก่า (อาคารอิฐแดง) ในช่วงบ่าย ซึ่งทั้งสองที่สามารถเดินไปได้ไม่ไกลจากสวนโอโดริ |
จากนั้นตอนเย็นๆ ค่ำๆ แนะนำให้ขึ้นชมวิวจาก Sapporo TV Tower และเดินเล่นเชมเทศกาลหิมะในภาคกลางคืน สวยงามไม่แพ้กลางวัน |
หกโมงเย็นหน้าหนาวนี่ก็มืดกันแล้ว บริเวณที่เป็นรูปแกะสลักน้ำแข็งจะมีการเล่นสีไฟกัน |
ส่วนเวทีใหญ่ที่เป็นหิมะแกะสลักแต่ละจุด จะมีการแสดงแสง สี เสียง ให้ชมกันตลอด การแสดงจะใช้เวลาประมาณ 3 นาที และพักแป๊บนึง สลับไปเรื่อยๆ จนถึงดึก |
ของมาเก๊านี่ทำได้ยิ่งใหญ่มาก ทุกๆ ปีแต่ละประเทศที่ได้รับเชิญก็จะจัดแสดงอย่างยิ่งใหญ่เพื่อเป็นการโปรโมทให้กับนักท่องเที่ยวที่มาชมงานเทศกาลหิมะ ที่ปีนึงมีคนมาเยือนเกือบ 2 ล้านคน |
ของดราก้อนบอลนี่แสดงไฟเฉยๆ ไม่มีแสงสีเสียง |
ชินคันเซน ข้ามมายังเกาะฮอกไกโด ความภูมิใจของชาวญี่ปุ่น |
สำหรับใครที่ยังมีแรงต่อ แนะนำไปเที่ยวชมกันต่อที่ย่าน Susukino นั่งรถไฟฟ้าสาย Namboku Line ไปอีก 1 ป้าย ลงสถานี Susukino exit 3 |
จุดจัดงานจะเริ่มตรงทางออกนี่เลย ตรงป้าย Nikka (Nikka Whisky เป็นป้ายโฆษณาเหล้าที่ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของย่านนี้) |
Susukino Ice World จะจัดขึ้นตลอดความยาวของถนนที่นี่ เป็นการจัดแสดงการแกะสลักน้ำแข็ง |
บรรดาสปอนเซอร์ร้านอาหารจะออกมาแกะสลักโชว์ปลาน้ำแข็งกันด้วย (ตอนละลายคงมีคนมารอเก็บปลากันอยู่ 555) |
มีการเล่นสี เล่นไฟกันเล็กน้อย |
ใครมาเที่ยวทีนี่แล้ว ก็อย่าลืมแวะจิบเบียร์ซัปโปโรกัน |
ชมกันเสร็จก็แวะเที่ยวผับบาร์ ร้านอาหาร ตรอกราเมง หาของกินได้มากมายที่ย่านซูซูกิโนะกันต่อเลย |