รีวิวหมู่บ้านชิราคาวาโกะ - Shirakawa-go
หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) เป็นหมู่บ้านมรดกโลก (World Heritage Site) จากองค์การ UNESCO ในปี 1995 ตั้งอยู่บริเวณที่ราบสูงฮิดะ ในหุบเขาตามลำน้ำ Shogawa เป็นหมู่บ้านชาวนาที่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่ละบ้านนั้นสร้างเป็นทรงหน้าจั่วที่หลังคาสูงทำมุม 60 องศา เรียกว่าบ้านแบบ กัสโซสึคุริ (Gassho-Zukuri) ทำด้วยหญ้าหนาๆ เพื่อให้สามารถรับน้ำหนักของหิมะที่ตกลงมาอย่างหนาในช่วงฤดูหนาว และการที่มีความเอียงลาดชันก็เพื่อให้หิมะไหลลงมาได้ง่าย ขนาดตัวบ้านแบบกัสโซนี้ เฉลี่ยความยาวอยูที่ 18 เมตร กว้าง 10 เมตร มี 3-4 ชั้น มีทั้งหมด 6 หลังด้วยกันจากจำนวนบ้านทั้งหมด 117 หลังในหมู่บ้านชิราคาวาโกะ สำหรับบ้านแนะนำให้เข้าไปเยี่ยมชมได้แก่ บ้านวาดะ (Wada House) และ บ้านคันดะ (Kanda House)
หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) นี้ เคยเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนตระกูล Takayama ในสมัยเอโดะตอนต้น หลังจากนั้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 17 - สมัยฟื้นฟูยุคเมจิ ปี 1868 ก็อยู่ภายใต้การควบคุมโดยรัฐบาลทหารบาฟุคุ และต่อมาก็ถูกปกครองอยู่ภายใต้ตระกูล Kanazawa ตลอดยุคเอโดะ
การมาเที่ยวที่นี่ สามารถจัดทริปเดินเที่ยวได้หมดภายในครึ่งวัน ส่วนอีกครึ่งวันสามารถไฟเที่ยวต่อยังเมือง Kanazawa หรือ Takayama ก็ได้ โหลดแผนที่เดินเที่ยวในหมู่บ้านชิราคาวาโกะ ที่นี่
การเดินทางมาหมู่บ้านชิราคาวาโกะ
จากเมือง Takayama นั่ง Nohi Bus เพียง 50 นาที ก็มาถึงยังหมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะ หมู่บ้านที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกเนื่องจากมีความสวยงามดั่งหมู่บ้านในหุบเขาเหมือนในเทพนิยาย จนเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทย ติดอันดับต้นๆ สถานที่ที่ต้องมาเยือนเมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่น
(รีวิววิธีเดินทางมาหมู่บ้านชิราคาวาโกะด้วยรถ Nohi Bus)
รีวิวหมู่บ้านชิราคาวาโกะ - Shirakawa-go |
ลงจากสถานีรถบัสก็มาที่บ้านขายตั๋วตรงจุดนี้ก่อน หลังจากที่จองตั๋วรถไฟ Kanazawa เรียบร้อยแล้ว ก็เอากระเป๋าสัมภาระฝากล็อกเกอร์หยอดเหรียญ |
แผนที่หมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะ |
สามารถขอแผนที่ฉบับภาษาไทยได้ที่ Tourist Information ได้ (แจ่มอ่ะ!!) |
แค่ตรงสะพานก็แวะถ่ายกันไปหลายช็อตแล้ว ฟ้าใสๆ น้ำใสๆ ใบไม้แดงนิดหน่อยกลับหิมะโปรยปราย ผสมผสานลงตัว |
มองย้อนกลับไปฝั่งที่เดินมาเมื่อกี้ |
ข้ามมาฝั่งหมู่บ้าน ด้านหน้าจะเป็นบ้านของชาวบ้านที่นี่ ที่เปิดเป็นร้านขายของที่ระลึก อันนี้แนะนำแวะมาซื้อตอนขากลับ |
นักท่องเที่ยวเดินเรียงรายกันเป็นแถว |
ร้านขายของที่ระลึกเยอะจริงๆ รีวิวของที่ระลึกหมู่บ้านชิราคาวาโกะ |
เดินทะลุมาจนถึงเส้นถนนใหญ่ให้เลี้ยวซ้ายแล้วตรงไปเรื่อยๆ |
ฝาท่อหมู่บ้านชิราคาวาโกะ |
จากเส้นถนนใหญ่ เดินมาจนถึงจุดขึ้นรถ Shuttle Bus เพื่อไปยังจุดชมวิว Shiromaya View Point |
รีวิวจุดชมวิวหมู่บ้านชิราคาวาโกะที่ Shiromaya View Point |
หลังจากชมวิวกันเรียบร้อยก็เดินลงเขาลงมาเรื่อยๆ มองขึ้นไปจะเห็นจุดชมวิวจากหมู่บ้าน |
เดินชมหมู่บ้านเรื่อยๆ |
เราจะเห็นแปลงที่ใช้ทำนาของชาวหมู่บ้านตลอดทาง |
บรรยากาศหมู่บ้านชาวนาโบราณของญี่ปุ่นในที่ราบสูงฮิดะ |
ต้นนี้ใบร่วงหมด เหลือแต่ลูกเต็มต้นละ คล้ายๆ ลูกพลับ |
จากนั้นก็มาแวะชมบ้าน Wada House บ้านตัวอย่างที่เราจะได้มาสัมผัสบ้านของชาวชิราคาวาโกะอย่างใกล้ชิด บ้านทรงกัสโซ่นี้ สร้างโดยการมุงหลังคาด้วยหญ้าหนาๆ เพื่อป้องกันหิมะในหน้าหนาว องศาความเอียงอยู่ที่ 60 องศา ไม่ขาดไม่เกิน เพื่อให้หิมะไหลง่ายๆ ตัวบ้านตามแบบมาตรฐาน ยาวประมาณ 18 เมตร กว้าง 10 เมตร มีอยู่ 3-4 ชั้น รีวิวบ้าน Wada House |
จากบ้าน Wada House ยังมีอีกหนึ่งบ้านที่น่าสนใจไม่แพ้กัน รีวิวบ้าน Kanda House |
เดินเมือยๆ ก็แวะเติมน้ำตาลกับซอฟท์ครีมชาเขียวกันนิด |
ขากลับก็เดินกลับถนนเส้นใหญ่เดิมเพื่อข้ามไปยังสะพานตรงที่รอรถบัส |
ตรงจุดรอรถบัส จะมีอีกหนึ่งจุดแวะชม คือ Outdoor Museum Gassho Folk Museum รวมแบบบ้านทรงกัสโซ่จากหลากหลายแห่งในภูมิภาคนี้ เช่นจากภูมิภาค Kazura และของทางหมู่บ้านชิราคาวาโกะ |
เปิดทำการ : 8:40-17:00(From March to November) 9:00-16:00(From December to February) ปิด ทุกวันพฤหัสบดี หรือถ้าวันหยุดราชการเป็นวันพฤหัสฯ ก็จะเปิดวันพุธแทน ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 500 เยน เด็ก 300 เยน |
ปิดท้ายด้วยรูปนี้ เค้ากำลังสร้างบ้านทรงกัสโซ่กันอยู่ ใช้หญ้าหนาๆ มาเป็นคันรถในการมุงหลังคา เจ้าหญ้าที่สามารถอยู่ได้เป็นสิบปี ราคาในการทำหลังคาก็แพงทีเดียว ว่ากันว่าหลายล้านบาทเลย (เน้นว่าบาทจ้า ++) |