รีวิวสวนสนุก เลโก้แลนด์ นาโกย่า   LEGOLAND Nagoya 
พาเที่ยวสวนสนุกเปิดใหม่ล่าสุดที่ญี่ปุนกับ LEGOLAND Nagoya  เป็นสวนเลโก้แลนด์แห่งที่ 8 ในโลก เป็นแห่งที่ 2 ในเอเชียต่อจากทาง LEGOLAND Malaysia LEGOLAND Hotel  และ Sea Life Aquarium  ในปี 2018 ส่วนเฟส 2 ในการขยายสวนสนุกให้ใหญ่โตยิ่งขึ้นมีแผนเพิ่มเติมไปจนถึงปี 2021 (วิธีเดินทางไป LEGOLAND Nagoya)  จองตั๋วเข้า LEGOLAND Nagoya ราคาพิเศษ คลิกเลย 
รีวิวสวนสนุกเลโก้แลนด์ นาโกย่า - LEGOLAND Nagoya   
สวนสนุก LEGOLAND Nagoya เริ่มต้นจากประตูทางเข้ากันก่อน LEGOLAND Nagoya   เปิดทุกวันตั้งแต่ 10.00 - 18.00 น. ด้านขวามือจะเป็นห้องขายตั๋ว ซื้อหน้างานได้เลย  
VIDEO 
รีวิว LEGOLAND Nagoya 2017 
VIDEO 
LEGO Shinkansen and JR Train LEGOLAND Nagoya 
LEGOLAND Nagoya Park Map  (ดาวน์โหลดฉบับเต็มได้ที่นี่ Bricktopia, Miniland, Pirate Shores, Knight Kingdoms, Lego City , Adventure  และ Factory  
ซื้อตั๋วกันก่อนเลย 1 Day Pass ผู้ใหญ่ 13 ปีขึ้นไป ราคาหน้างาน 6,900 เยน แต่ถ้าจองออนไลน์จะเหลือ 6,200 เยนที่นี่   
โซนที่ 1 Factory Zone  โซนโรงงานผลิตเลโก้   ก็ถ่ายรูปที่ระลึกกันก่อน กับหุ่นไดโนเสาร์เลโก้ ในสวนสนุกเลโก้แลนด์นาโกย่านี้ ใช้ตัวต่อเลโก้ถึง 17 ล้านชิ้นด้วยกัน ต่อออกมาเป็นตึก เครื่องเล่น และหุ่นฟิกเกอร์ต่างๆ เต็มสวนสนุก   
ด้านซ้ายมือที่เดินเข้าในโซนนี้มาจะเป็น LEGO Big Shop  ร้านขายเลโก้ที่ใหญ่อันดับ 1 ในเอเชียขณะนี้ ซึ่งเดี๋ยวเราจะแวะชมก่อนกลับเช่นเดียวกับตัวโรงงานเลโก้รีวิว LEGO Big Shop   
นอกจากโรงงานและร้านขายเลโก้แล้ว ตรงจุดนี้จะมีมาสคอทน่ารักๆ เป็นตัวมินิฟิกจ์หลายตัวก็ออกมาต้อนรับ ถ่ายรูปกับผู้คนที่มาเที่ยวกัน  
นอกจากนั้น โซนแรกนี้ ยังเป็นทีรวมร้านอาหารมากมายและตู้ล็อคเกอร์หยอดเหรียญ  
โซนที่ 2  Bricktopia โซนตัวต่อในอุดมคติ  Observation Tower  สามารถขึ้นชมวิวโดยรอบได้ 360 องศา ความสูง 50 เมตร
 
ม้าหมุน Brick Party   
โซนที่ 3 Miniland เมืองจำลองจิ๋ว  LEGOLAND  ของแต่ละที่กันก็ว่าได้  
Miniland  เป็นเมืองจำลองที่สร้างด้วยตัวต่อเลโก้ รวมเอาสถานีที่ท่องเที่ยวสำคัญของแต่ละประเทศนั้นๆ ที่ Legoland  ไปตั้งอยู่ ของที่นาโกย่านี้ จะรวมเอา 10 Landmark สำคัญๆ ในญี่ปุ่นมาจำลองไว้โดยโซนนี้ใช้ตัวต่อเลโก้กว่า 10 ล้านชิ้นเลยทีเดียว ว้าววววว... 
เริ่มจากเมืองนาโกย่า ทำออกมาเป็นท่าเรือขนาดใหญ่ มีเรือที่สามารถขับเคลื่อนได้เองอัตโนมัติด้วย  
เรือสีส้มนี้ คือเรือ Fuji Ice Breaker  เป็นเรือสำรวจขนาดใหญ่ใช้ในปี 1960 - 1980 ในมหาสมุทร Antarctic ปัจจุบันปลดระวางแล้ว จอดอยู่ที่ Maritime Museum นาโกย่า   
ดีเทลล์ย่านตัวเมืองต่างๆ คนตัวเล็กๆ น่ารัก ทำออกมาได้ดีมากๆ  
ส่วนนี้คือ Nagoya City Science Museum  เป็น Planetarium  ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อยู่ที่เมืองนาโกย่าแห่งนี้นี่เอง นอกจากเป็นพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แล้ว ยังเป็นพิพิธภัณฑ์การขนส่งอีกด้วย  
ร้านค้าในตัวเมือง ดีเทลล์ดีมากๆ เช่นกัน  
มาถึงย่าน Sakae กัน ย่านนี้ จะมีอาคารรูปทรงเป็นเอกลักษณ์ที่มีชื่อเรียกว่า Oasis 21  ซึ่งมีหลังคาทำด้วยแก้วทั้งหมด แล้วใช้ระบบหล่อเย็นด้วยน้ำ  
ถือว่าย่านนี้ เป็น Landmark  อีกแห่งนึงของเมืองนาโกย่า  
ไปกันต่อที่โตเกียว ถ้าเมืองไทยมีวัดพระแก้วแล้ว โตเกียวก็ต้องวัดอาซากุสะ หรือ วัดเซนโจจิ  
วัดดังย่านอาซากุสะที่มีสัญลักษณ์โคมแดงยักษ์ที่ประตู Kaminarimon Gate   
ด้านในเป็นถนนช้อปปิ้ง Nagamise-Dori  ทำออกมาได้เหมือนแป๊ะๆ   
วัดนี้ ใครมาญี่ปุ่นครั้งแรกแล้วไม่ได้มาแวะไหว้พระขอพร นี่เรียกว่ามาไม่ถึง ต้องกลับมาซ่อมนะจ๊ะ 555  
ศาลเจ้า Itsukushima Shrine  แห่งเมือง Hiroshima    
ห้าแยก Shibuya จุดวุ่นวายที่สุดจุดหนึ่งในโตเกียว   
ของจริงคนเดินเยอะกว่านี้นะ 555  
ตึก Shibuya 601  
ทางลงไปยังสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน  
อาคารอิฐแดงแห่งสถานีโตเกียว (Tokyo Station)  
มาถึงอีก 1 ไฮไลท์ คือ รถไฟฟ้าฟ้าหัวจรวด Shinkansen  ใน Miniland  ใช้รุ่น N700  ซึ่งเป็นชินคันเซนที่วิ่งในสาย Tokaido  และ Sanyo  รถไฟขบวนนี้ ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า แล่นรอบรางในมินิแลนด์ให้เราได้เห็นกัน  
สะพานแขวนและ Tokyo Skytree   
โตเกียวทาวเวอร์  
เอ๊ะๆ นี่มัน Unicorn Gundam  ที่จะนำมาสร้างใหม่ที่ Odaiba  ทดแทนตัวเก่า RX-78  ที่เพิ่งรื้อถอนออกไปจากหน้าห้าง Divercity   
เลโก้แลนด์ก็อัพเดตทันสถานการณ์จริงๆ  
อีกซักรูป N700  มาให้ถ่ายอยู่เรื่อยๆ  
ไปกันต่อที่โอซาก้า ตึกนี้ นักช้อปทั้งหลายคงรู้จักกันดีกับร้านดองกี้ สาขา Dotonbori  ด้านหลังร้านเป็นชิงช้าสวรรค์ด้วยนะเออ  
จุด Landmark ของ Dotonbori จะเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจากป้ายกูลิโกะ  
มินิฟิกจ์ยกมือวิ่ง 555  
ย่านเที่ยวกลางคืน Shinsekai  มีเป็ดยักษ์มาแอบอยู่ใต้หอคอย Tsutenkaku  ย่านนี้ เป็นย่านกินดื่ม มีร้านอาหารมากมาย ใครที่อยากทานซาซิมิปลาปักเป้าจากเชฟที่มีใบอนุญาต แนะนำมาที่ย่านนี้ มีหลายร้านเลยทีเดียว  
จากโอซาก้า ไปกันต่อที่แถบภูเขาไฟฟูจิกันบ้าง ในมินิแลนด์ สร้างวัดล้อมรอบฟูจิกันเต็มไปหมด  
จากภูมิประเทศแล้วจะไม่ตรงกัน แต่จะนำวัดดังรอบญี่ปุ่นมาไว้ที่นี่ เช่น วัดทอง Kinkakuji  จากเกียวโต  
ศาลเจ้า Fushimi Inari    
เสาโทริอินับร้อย เรียงรายเหมือนของจริง ในบรรยากาศซากุระบาน  
วัดน้ำใส Kiyomizudera   
วัด Byodoin  ย่านชานเมืองเกียวโต  
Nagoya Dome   
เป็นสนามเบสบอลในร่ม นักเบสบอลขยับตัวเล่นโชว์ให้เราดูด้วย ของจริงนั้น สามารถจุผู้ชมได้มากถึง 40,000 คน ส่วนของปลอมนี้ ใช้เวลาต่อถึง 4,000 ชม.  
ปราสาท Himeji  ปราสาทที่ใหญ่และสวยที่สุดในญี่ปุ่น ใหญ่ถึง 50 เท่าของ Tokyo Dome  มินิแลนด์นี้ ใช้ตัวต่อเลโก้ถึง 288,000 ชิ้นในการต่อปราสาทนี้ขึ้นมา  
Sapporo TV Tower  เป็นช่วงเทศกาลหิมะซัปโปโร  
จัดขึ้นทุกปี ช่วงสัปดาห์ที่สองของเดือนกุมภาพันธ์  
หอนาฬิกาซัปโปโร  
Kobe Port Tower  หอสีแดงสูง 108 เมตร ริมอ่าวโกเบ สร้างตั้งแต่ปี 1963 ใช้ตัวต่อเลโก้ 6,000 ตัว 
โซนที่ 4 Pirates Shores โซนชายหาดโจรสลัด LEGOLAND Windsor  และ California  
เครื่องเล่น Anchors Away  หรือเครื่องเล่นเรือใบไวกิ้ง เหวี่ยงได้สุดๆ เหมือนกัน ความสูงขึ้นต่ำของเด็ก 130 cm  
Castaway Camp  โซนปีนป่ายเรือโจรสลัด เด็กๆ มันส์มาก 
เครื่องเล่น Splash Battle  อันนี้ มันส์มาก เป้นการต่อกันระหว่าง คนบนเรือ และคนบนบก  
แข่งกันสาดกระสุนปืนฉีดน้ำ (เหมือนบนบกจะได้เปรียบนะ 555)  
โซนที่ 5 Knight's Kingdom โซนอาณาจักรอัศวินปราสาทอัศวิน  
เป็นโซนที่มีรถไฟเหาะ 2 แบบ แบบแรก สำหรับเด็กเล็ก Dragon's Apprentice   
แบบที่ 2 สำหรับผู้ใหญ่และเด็กโต Merlin's Flying Machine  ซึ่งเจ้ารถไฟเหาะนี้ เป็นเครื่องเล่นที่มีความเร็วมากที่สุด 57 km/hr ให้เวลาเสียว กรี๊ดสุดตัวอยู่ที่ 2 นาที ครึ่ง นั่งได้รอบละ 20 คนๆ ต่อคิวกันยาวเลย  
สำหรับร้านค้าโซนนี้ บริเวณปราสาทด้านล่างจะเป็นร้านขายของที่ระลึก ด้านบนเป็นร้านอาหารขนาดใหญ่ แนะนำแวะมากฝากท้องที่นี่ได้เลย  
ต่อแถว เลือกอาหาร หยิบใส่ถาดแล้วจ่ายเงิน  
ชุดนี้ 1,400 เยนเท่านั้น ราคาย่อมเยาว์สุด  
แซนด์วิชกุ้งแวะเนื้อ แบบเย็น อร่อยมาก  
โซนที่ 6 LEGO City โซนเมืองโลโก้   
เครื่องเล่นแห่งครอบครัว Rescue Academy  โรงเรียนสอนกู้ภัย   
ใช้การโยกคันโยกเพื่อขับรถดับเพลิงไปข้างหน้า พอไปถึงแล้วก็ฉีดน้ำดับไฟแล้วโยกกลับ ใครกลับมาถึงก่อนชนะ เหนื่อยทุกคนพ่อแม่ลูก 555  
Junior Driving School  โรงเรียนสอนขับรถสำหรับเด็กเล็ก 
โซนนี มีมุมถ่ายรูปกับ Lego Friends  สำหรับเด็กหญิงด้วย  
City Airport  
The Wharf  ขับเรือเลโก้ ก่อนออกจากโซนนี้ ถ้ามีเวลาให้แวะเข้าไปดูหนัง 4D  ใน Palace Cinema  ซึ่งโรงหนังนี้ จุผู้ชมได้ถึง 300 คน 
โซนที่ 7 Adventure โซนแห่งการผจญภัย  
เริ่มตั้งแต่เครื่องเล่น Cargo Ace  ขับเครื่องบินเด็กเล็ก  
สำหรับธีมผจญภัยในโซนนี ทำเป็นแนว ธีมผจญภัยในแดนอียิปต์  
ตัวต่อเลโก้น่ารักมากมาย  
เครื่องเล่น Lost Kingdom Adventure    
แนวนั่งรถแล้วยิงเป้าด้วยปืนเลเซอร์ สนุกมันส์มาก (ด้านในไม่ให้ถ่ายรูป)  
Beetle Bounce  ทิ้งดิ่งเด็กเล็ก เบาๆ ไม่น่ากลัว 
S.Q.U.I.D Surfer  เครื่องเล่นเหวี่ยง น้ำกระจาย สไตล์หนวดปลาหมึก ร้อนๆ อยากเปียก ให้จัดอันนี้เลย 555  
มาถึงอันสุดท้ายของโซนที่แนะนำว่าห้ามพลาด ทำดีมากๆ กับ Submarine Adventure   
นั่งเรือดำน้ำเลโก้ เพื่อสำรวจใต้ทะเล ที่มีทั้งปลาเลโก้และปลาจริงๆ  
เรือดำน้ำเคลื่อนที่ได้ เป็นความร่วมมือระหว่าง LEGOLAND  และ Sea Life    
เห็นฝูงปลามากมาย ที่แหวกว่ายท่ามกลางซากปลักหักพังของเมืองใต้ทะเล ใช้เวลาเล่น 10 นาที ที่คุ้มค่ามากๆ  เป็นไฮไลท์ของที่นี่  
จบจากโซน Adventure ก็จะกลับออกมายังโซน Factory  ด้านหน้า เป็นที่เราจะแวะสุดท้ายก่อนกลับหลังจากที่ผ่านมาก่อนในตอนเข้า มีหลายจุดให้เลือกเข้าไม่ว่าจะเป็นห้องฝึกต่อเลโก้ Build and Test   
Robotic Play Center  
และ Lego Factory Tour  พาชมโรงงานผลิตเลโก้  
ที่นี่จะมีไกด์พาชมอธิบายขั้นตอนการผลิตเลโก้อย่างละเอียดตั้งแต่ต้นจนจบ  
เริ่มตั้งแต่นำเม็ดพลาสติกมาขึ้นรูป  
เป็นบล็อกขนาดต่างๆ  
จากนั้นลงสี ลวดลายต่างๆ  
บรรจุหีบห่อ  
ตรงทางเข้าจะได้รับบัตรคนละ 1 ใบ  
หลังจากชมจบ ให้นำบัตรแลกของที่ระลึกจากพนักงาน เป็นบล็อกเลโก้ LEGOLAND Japan Factory  ไม่มีขายที่ไหนด้วย อิอิ อยากได้ต้องมาชมเอง  
ตรงทางออก จะมีตัวต่อเลโก้แบบเบสิคมากมายหลายแบบหลายไซส์ขาย ใครขาดอะไรมาแวะเก็บที่นี่ได้  
สนนราคาตามประมาณถ้วยที่ใส่  
ปิดท้ายกันด้วยรูปรวมตัวต่อเลโก้น่ารักรอบๆ สวนสนุก  
แนะนำกันเลยกับ Legoland Nagoya  อีกหนึ่งสวนสนุกเปิดใหม่ในญี่ปุ่นที่ห้ามพลาด