ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ (Fushimi Inari Taisha)
ศาลเจ้า Fushimi Inari Taisha ศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังของเกี่ยวโต เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโตที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกต่างมาที่นี่ ศาลเจ้าแห่งนี้ มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ศาลเจ้าจิ้งจอกหรือศาลเจ้าแดง สร้างมาตั้งแต่ปีค.ศ. 794 หรือพันกว่าปีมาแล้ว มีมาก่อนการสร้างเมืองเกียวโตด้วยซ้ำ สำหรับความโด่งดังของศาลเจ้านี้ มาจากเสาโทริอิสีแดง ที่เรียงรายหลายหมื่นต้นเป็นทางเดินตลอดภูเขาอินาริ ชาวญี่ปุ่นโบราณเชื่อว่า เทพเจ้าอินาริ คือเทพเจ้าแห่งความสมบูรณ์ทางผลิตการเกษตร มีสุนัขจิ้งจอกเป็นสัตว้คู่กาย ทำให้เราได้พบเห็นรูปปั้นเจ้าสุนัขจิ้งจอกมากมาย
เมื่อเดินออกจากสถานีรถไฟ Inari จะพบกับประตูแรกขนาดใหญ่ ที่เรียกว่า Romon Gate ด้านในก็มีตัวอาคารหลัก และอาคารอื่นๆ อีกมากมาย เมื่อเดินลึกเข้าไปอีกหน่อยด้านหลัง ก็จะเริ่มเข้าสู่เขตของเสาโทริอิ ที่เรียงรายนับหมื่นต้น เสาโทริอิ นี้ เกิดจากศรัทธาของผู้คนที่มาขอพรให้ธุรกิจการงานของตนประสบผลสำเร็จ แล้วก็มาสร้างเสาถวาย การเดินชมเสาโทริอิ ถ้าเดินครบรอบจะใช้เวลา 2-3 ชม. ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร แต่ถ้าเดินเพียง 1 กิโลจะมาหยุดที่จุดชมวิว ยตสึซูจิ (Yotsutsuji) ซึ่งสามารถมองเห็นตัวเมืองเกียวโตได้ทั้งเมือง ซึ่งก็เป็นการเพียงพอแล้ว
สำหรับด้านหน้าศาลเจ้าฟูชิมิ จะมีทางเดินแยกออกไปเป็นถนนคนเดินสำหรับขายอาหารและของที่ระลึกมากมาย
เวลาเปิดปิด : 24 ชม
ค่าเข้าชม : ฟรี
(วิธีเดินทางมา ศาลเจ้า Fushimi Inari Taisha)
ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ - Fushimi Inari Taisha |
วีดีโอพาเที่ยวศาลเจ้า Fushimi Inari Kyoto
มาง่ายที่สุด ด้วยรถไฟ JR เดินน้อยหน่อย ออกจากสถานีรถไฟ Inari เดินออกมาก็จะเจอศาลเจ้าเลย สังเกตง่ายๆ ว่ามาถูกรึไม่ ดูจากเสาสีแดงๆ ในสถานี |
ศาลเจ้าแห่งนี้ ค่อนข้างมีบริเวณกว้างใหญ่จริงๆ สามารถมาเที่ยวได้ทั้งทุกฤดูไม่ว่าจะซากุระ ใบไม้แดง หรือใบไม้เขียวของหน้าร้อนก็ได้ จากแผนทีของศาลเจ้าหลังจากผ่านศาลาและวิหารใหญ่หลักๆไปแล้ว ด้านหลังจะเป็นไฮไลท์ของที่นี่ นั่นคือ บรรดาเสาโทริอิ ที่ตั้งเรียงกว่าพันต้น |
ถ้ามาเที่ยวตอนเย็นๆ ค่ำๆ ก็จะได้ไปอีกบรรรยากาศไม่เหมือนใคร สัมผัสไฟสวยๆ กับความสวยๆ ของแสงทไลไลท์ ส่วนประวัติโดยสังเขปของศาลเจ้าชินโตแห่งนี้นั้น สร้างเพื่ออุทิศให้แก่เทพเจ้า Inari ซึ่งเป็นเทพแห่งข้าวของศาสนาชินโต |
รอบๆ บริเวณศาลเจ้า Fushimi Inari แห่งนี้ จะสังเกตได้ว่ามีรูปปั้นสุนัขจิ้งจอกอยู่เต็มไปหมด ตามซุ้มประตูซ้ายขวาและทางเดินเข้าจุดสำคัญต่างๆ |
ส่วนสาเหตุที่ต้องเป็นสุนัขจิ้งจอกเพราะว่า สัตว์ชนิดนี้ ถือเป็นผู้ส่งสารของเทพเจ้า Inari |
จากวิหารหลัก (Hondon) ก่อนหน้านี้ มุ่งหน้าสู่ด้านในกันต่อ จะมีหลากหลายวิหารย่อยให้เยี่ยมชม |
ตรงบริเวณจุดนี้จะมีเครื่องรางของขลังจำหน่าย สำหรับเครื่องรางของที่นี่แนะนำเลยสำหรับคนที่ทำธุรกิจการค้า เค้าว่ากันว่าเช่ามาบูชาแล้วจะเจริญรุ่งเรือง มั่งคั่งร่ำรวย
|
ขึ้นบันไดสู่วิหารที่เป็นจุดสั่นกระดิ่งยักษ์และหยอดเหรียญทำบุญ |
คนค่อนข้างเยอะทีเดียว |
การขอพรที่นี่ ทำได้ง่ายๆ คือ ไหว้พระ ขอพรที่อยากได้ จากนั้นโยนเหรียญทำบุญลงไปในกล่องแล้วก็สั่นกระดิ่งที่แขวนอยู่ |
หลังจากที่ขอพรกันเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาเดินเที่ยวชมเสาโทริอิกัน ตรงนี้คือ จุดเริ่มต้น เดินเข้าชมกันเลย |
เสาโทโรอิที่นี่ จะมียาวสุดลูกหูลูกตาทีเดียว เกิดจากการที่ผู้คนมาไหว้ขอพรหลักๆ ในเรื่องการค้า ธุรกิจ ถ้าประสบความสำเร็จก็จะมาสร้างเสาถวาย จะเห็นได้ว่าเยอะมาก ค่าบริจาคสำหรับสร้างเสานั้น เสาต้นใหญ่ มีชื่อผู้บริจาคด้วย ราคาอยู่กันที่ประมาณ 1 ล้านเยน ส่วนเสาต้นเล็กก็ 4 แสนเยน |
ตรงกันไปไม่นาน จะเข้าสู่ Senbon Torii (แปลว่า เสาโทริอิพันๆ ต้น) ซึ่งเป็นเสาโทริอิขนาดไม่ใหญ่มาก ตั้งเรียงเคียงคู่กันสองแถว ที่จะค่อยๆ ไต่ละดับขึ้นไปสู่เขา Inari ซึ่งเป็นจุดชมวิว (ใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชม.) จุดนี้ คนจะแวะถ่ายรูปกันมาก แนะนำให้เดินถ่ายขากลับเวลาออก คนจะไม่เยอะ ตรงจุดนี้ เค้าจะจัดให้เดินเข้าทางขวา ออกทางซ้าย |
พอสุดทางเดินก็จะมาถึงส่วนของศาลเจ้า Inari ด้านใน ตรงนี้เป็นอีกจุดหนึ่งสำหรับการไหว้ขอพร |
โดยจุดขอพร จุดนี้ จะต่างจากตรงด้านหน้าตรงที่แผ่นป้ายขอพรจะเป็นรูปสุนัขจิ้งจอก |
เราสามารถซื้อแผ่นป้ายซึ่งทำด้วยไม้นี้ มาวาดหน้าตาตามที่เราชอบ แล้วเขียนคำอธิษฐานลงไป จากนั้น นำไปแขวนไว้ |
จบจากขอพรรอบสองกันแล้ว ก็ได้เวลาเดินต่อ จากนี้จะเป็นเส้นทางเสาโทริอิขึ้นเขาไปเรื่อยๆ ถ้าเดินขึ้นไปสุดใช้เวลาอีก ชั่วโมงกว่าๆ |
ระหว่างทางมีจุดแวะชมเป็นเหมือนเสาโทริอิเล็กๆ ตั้งอยู่ตามลาน |
ใครที่มีเวลาก็สามารถเดินกันต่อได้ เสาโทริอิเรียงรายมีทั้งลงเนิน ขึ้นเขาไปเรื่อยๆ |
สำหรับคนที่ไม่ไปต่อซึ่งก็เพียงพอแล้วสำหรับการมาเที่ยวที่นี่ แนะนำเดินกลับทางเดิม แต่เข้าช่องขวา ตรงนี้ คนจะน้อยมาก |
ใครจะหามุมเซลฟี่อะไรตรงไหนจัดไปได้เลย |
ศาลเจ้า Fushimi Inari อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวน่าไปอีกแห่งของเมืองเก่าเกียวโต แนะนำสำหรับเพื่อนๆ ทุกคน |