The Making of Harry Potter
Warner Bros. Studios Tokyo
พาชมเบื้องหลังการถ่ายทำของซีรี่ย์หนังดังเรื่อง Harry Potter ไม่ว่าจะเป็นฉากสำคัญๆ ในเรื่อง Special Effect การทำโมเดล หุ่นประกอบฉากที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยมาช่วย ใช้เวลาเดินเที่ยวทัวร์ประมาณ 3 ชม. ด้านในมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกจากภาพยนตร์มากมาย ที่นี่เป็นสตูดิโอแฮรี่พอตเตอร์ 1 เดียวในเอเชียเท่านั้น โดยที่แรกเปิดที่ลอนดอน ซึ่งที่โตเกียวนี้ ทำได้ยิ่งใหญ่อลังการ บนเนื้อที่มากกว่า รายละเอียดเยอะกว่า คุ้มค่าน่าเข้ามากๆ ไม่ต้องบินไปไกลถึงอังกฤษ แนะนำมาเที่ยวกันเลย จะเป็นยังไงนั้นไปชมกัน
วิธีเดินทาง : Subway Oedo Line หรือ Seibu Toshima Line ลงสถานี Toshimaen เดินต่อ 5 นาที
เวลาเปิดปิด : จ-ศ 9.00 - 20.30 / ส.อา 8.30 - 22.00 น. แนะนำให้มาถึงก่อนเวลารอบที่เราจองไว้ประมาณ 30 นาที
*การจองตั๋ว Harry Potter ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น โดยสามารถเลือกวันที่และรอบเวลาเข้า ไม่มีขายหน้างานเพื่อจำกัดประมาณคน
ราคาตั๋ว ผู้ใหญ่ 6,300 เยน / วัยรุ่น (12-17 ปี) 5,200 เยน / เด็ก (4-11 ปี) 3,800 เยน
![]() |
ด้านหน้า The Making of Harry Potter Warner Bros. Studios Tokyo ถ้ามาถึงก่อนเวลาที่จองไว้ครึ่งชม. เค้าจะเปิดให้ต่อแถวได้เลย ไม่ต้องรอตามเวลาจองเป๊ะๆ |
![]() |
29 กันยายน 2000 เป็นวันแรกที่ภาพยนตร์ชุด Harry Potter ออกฉายครั้งแรกของโลก จากนั้นก็ใช้เวลาออกภาคต่อๆ เรื่อยๆ ตั้งแต่พระเอกยังเด็กและโตเป็นหนุ่ม รวมทั้งสิ้น 7 ภาคด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ปี 2544 - 2553 |
![]() |
ชมบรรยายประวัติโดยย่อของหนังซักพัก จากนั้นเค้าจะเลือกตัวแทนกลุ่มเป็นเป็นผู้เปิดประตูเข้าสู่โถง |
![]() |
ศาตราจารย์ดัมเบิ้บดอร์ (Dumbledore) อาจารย์ใหญ่โรงแรมพ่อมดฮอกวอตต์ |
![]() |
แต่ละบ้านก็จะมีเครื่องแบบของแต่ละบ้าน แยกตามสีต่างๆ ด้วย |
![]() |
จากโถงใหญ่ จะมีเวลาให้เราได้ถ่ายรูปซักพักใหญ่ๆ แล้วต่อจากนั้น ไกด์ทัวร์จะปล่อยให้เราเดินเข้าห้องต่อไป เพื่อให้กรุ๊ปต่อไปเข้ามา ซึ่งจากนี้ เราจะใช้เวลาเท่าไหร่ก็ได้ อยู่ทั้งวันเลยก็ได้แล้วแต่เรา สำหรับห้องถัดมาเป็นห้องบันได้ขยับได้ (Marble Staircase) แบบในหนังเลย ทำได้เยี่ยมมากๆ ในห้องก็จะมีรูปบุคคลสำคัญประจำฮอกวอตต์ติดไว้เต็มผนัง จุดนี้จะมี QR Code ให้เราสแกนรูปตัวเองจากนั้น รูปของเราก็จะไปโชว์ดุ๊กดิ๊กบนผนัง แต่เยอะมากต้องหากันให้เจอ |
![]() |
ต่อไปเป็นโซน Living of Hogwarts แสดงห้องหับต่างๆ ในเรื่อง รวบรวมมาแบบจัดเต็มมากๆ แอดถ่ายมาให้ดูบางส่วนแล้วกันเดี๋ยวจะสปอยเยอะไป |
![]() |
สำหรับคนที่อยากลองเล่นกีฬาควิดดิช (Quidditch) ขี่ไม้กวาดไล่จับลูกบอลแบบในหนัง ตรงนี้ ก็มีการจำลองให้เราได้ลองเล่นด้วย ตรงนี้ต้องสแกน QR เพื่อรับคิวก่อน |
![]() |
ห้องทำงานของศาสตราจารย์ดัมเบิ้ลดอร์ ซึ่งในหนังจะตั้งอยู่บนชั้น 7 ของปราสาทฮอกวอตส์ |
![]() |
รวม Magic Wands ของทุกคนในเรื่อง ของใครแบบไหน มาดูได้ที่นี่เลย |
![]() |
สำหรับผนังนี้ คือ Death Eaters หน้ากากสำหรับผู้ติดตาม Lord Voldemort ตรงนี้ เราสามารถสแกน QR Code เพิ่อทำหน้ากากของเราขึ้นไปโชว์ได้เช่นกัน สนุกดี |
![]() |
ห้องปรุงยา แวะถ่ายรูปสวยๆได้ จะมีควันออกมาจากหม้อปรุงยาเหมือนของจริง เป็นอีกหนึ่งหลักสูตรที่สอนโดยอาจารย์สเนป แก่นักเรียนพ่อมดเพื่อใช้ป้องกันตัวจากศาสตร์มืด |
![]() |
Lord Voldemort ตัวร้ายอันดับ 1 ของเรื่อง ปรากฎตัวครั้งแรกจากตอนแฮรี่ พอตเตอร์กับศิลาอาธรรพ์ เป็นผู้สืบสกุลของ สลิธีริน คนสุดท้าย |
![]() |
จากนั้นจะเข้าสู่โซน Forbidden Forest ป่าต้องห้าม เป็นป่าหลังแนวกำแพงฮอกวอตต์ เป็นที่อยู่ของสัตว์วิเศษและพันธุ์ไม้ประหลาดต่างๆ มากมาย โซนนี้จะมีกิจกรรมเพิ่มเติมคือ การใช้ไม้กายสิทธิ์ของทางสตูดิโอ (ต้องซื้อตั้งแต่ก่อนเข้า) เพื่อเล่นเกมส์ไล่ผู้คุมวิญญาณออกจากป่าต้องห้าม |
![]() |
บ้านของแฮกริด (Hagird) อาจารย์ผู้รักษากุญแจของแผ่นดินฮอกวอตต์ ลูกครึ่งยักษ์ - พ่อมด ก็อาศัยอยู่ใกล้ๆ กับป่าต้องห้ามนี่ |
![]() |
ซึ่งโซนป่าต้องห้ามนี้ จะเล่าเรื่องราวสำคัญต่างๆ ในฉาก ไม่ว่าจะเป็นตอนที่แฮรี่และรอนนั้นถูกด๊อบบี้ขัดขวางไม่ให้มาที่ฮอกวอตส์จนทำให้ทั้งคู่ตกรถไฟ เลยแอบขโมยรถฟอร์ดแองเกลียบินได้ขับไปที่โรงเรียน แต่กลับไปชนเข้ากับต้นวิลโลว์จนทำให้รถพัง |
![]() |
เซนทอร์ (Centaur) สัตว์ครึ่งม้าครึ่งมนุษย์ มีธนูเป็นอาวุธ |
![]() |
อะโครแมนทูล่า (Acromantula) แมงมุมยักษ์ 8 ตา 8 ขา |
![]() |
ออกจากป่าต้องห้าม เท่ากับมาได้ครึ่งทางของทัวร์แล้ว ตรงจุดนี้ จะเป็นจุดแวะพักทานอาหารที่ร้าน Backlot Cafe แนะนำให้แวะทานจุดนี้กันเลย อาหารจะเป็นคนละแบบและดูน่าทานกว่าร้านด้านนอกตรงโถง เดี๋ยวไปชมเมนูกัน |
![]() |
ติดๆ กับร้านอาหารจะเป็นบาร์ขายบัตเตอร์เบียร์ (ฺButter Beer) แนะนำแวะซื้อก่อนแล้วถือไปนั่งทานในร้านอาหารได้ |
![]() |
จะซื้อเป็น Set หรือซื้อเฉพาะเบียร์อย่างเดียวก็ได้ |
![]() |
Butter Beer รสชาติหอมหวานคาราเมล ไม่มีแอลกอฮอล์ รสเดียวกันกับที่ USJ ราคาอยู่ที่แก้วละ 1,100 เยน ดื่มเสร็จ สามารถนำแก้วกลับไปเป็นของที่ระลึกได้เลย ไม่ต้องคืน มีอ่างล้างแก้วให้พร้อม สะดวกมาก |
![]() |
จากนั้นก็มาเข้าแถวต่อคิวสั่งอาหารกันต่อที่ร้าน Backlot Cafe เมนูจะเป็นอาหารเหมือนในหนัง 4 แบบ 4 บ้าน จัดเป็น Set นอกจากนั้นมีเมนู Alacarte อีกมากมายให้เลือก |
![]() |
จ่ายเงิน รับเครื่องดื่มมาก่อน แล้วไปนั่งรอที่โต๊ะอาหาร พร้อมเครื่องสั่นบัตรคิว จากนั้นพนักงานจะนำอาหารมาเสิร์ฟเราถึงโต๊ะ ใช้เวลารอประมาณ 15 นาที |
![]() |
ชุดสเต๊กเนื้อบ้าน Gryffindor ราคา 3,200 เยน รวมเครื่องดื่ม |
![]() |
ทานเสร็จแล้วก็แวะถ่ายรูปลานด้านนอกกันซักแพร้บ ตรงนี้จะมีบ้านแฮกริดอยู่ |
![]() |
บ้านแฮกริด มี 2 ห้องใหญ่ คือ ห้องกลางรวมในบ้าน ทำออกมาได้สมจริงมากๆ |
![]() |
และห้องนอนของแฮกริด |
![]() |
จุดถ่ายรูปอื่นๆ อันนี้สะพานฮอกวอตต์เหมือนที่ลอนดอน |
![]() |
Knight Bus 3 ชั้น ดูได้จากด้านนอกอย่างเดียว ไม่สามารถขึ้นไปบนรถบัสได้ |
![]() |
โซน Platform 9 3/4 ชานชาลาลับของสถานี King Cross ที่ลอนดอน เป็นจุดแรกที่แฮร์รี่ได้สัมผัสกับประสบการณ์เวทมนต์ของเรื่องก็ว่าได้ |
![]() |
ด้านบนรถไฟ Hogwarts Express จะทำเป็นห้องจำลองเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนรถไฟให้เราได้ชมกัน |
![]() |
Platform 9 3/4 ที่นี่ ทำจุดให้เราได้ถ่ายรูปถึง 3 จุดด้วยกัน เอาแบบไม่ต้องรอคิวยาวๆ กันเลย จบๆไป 55 |
![]() |
ร้านขายของที่ระลึก The Railway Shop ร้านเดียวในระหว่างที่เดินทัวร์ (ของในร้านตามรูปล่างๆ) แนะนำเข้าไปดูได้ แต่ถ้าจะซื้อรอซื้อที่ร้านใหญ่ตอนออกไปเลยก็ได้จะได้ไม่ต้องถือเกะกะ |
![]() |
โซนถัดมาคือกระทรวงเวทมนตร์ลอนดอน London Ministry of Magic เปิดตัวที่ Tokyo เป็นที่แรกจากทาง Warner Bros. ซึ่งในหนังนั้น กระทรวงนี้จะอยู่ลึกลงไปใต้ดินใจกลางกรุงลอนดอน โดยบรรดาพ่อมดจะใช้ผงฟลู โยนลงพื้นแล้วจะหายตัวไปโผล่อยู่ที่เตาผิงสีทองภายในกระทรวง |
![]() |
ต่อมาเป็นการแสดงการทำ Creature Effects ทำยังไงให้ตัวละครต่างๆ ในเรื่องขยับได้เหมือนจริง อาทิ ลูกตา ปาก ขยับได้ โดยใช้เทคนิค CGI (Computer Generated Imagery) |
![]() |
โดยเค้าจะเอาพวกตัวละครสำคัญๆ มาจัดแสดงให้เราได้ชมกัน |
![]() |
Dobby เอลฟ์ประจำตระกูลมัลฟอย ปรากฏตัวต่อให้แฮร์รี่ในขณะที่เขาซ่อนอยู่ในห้องนอนตามคำสั่งของลุงเวอร์นอน ด๊อบบี้มาเพื่อเตือนแฮร์รี่ไม่ให้กลับไปเรียนที่ฮอกวอตส์ในปีที่สองเพราะถ้าแฮร์รี่กลับไปที่โรงเรียน ชีวิตของเขาจะเป็นอันตราย |
![]() |
ต่อมาจะเป็นจุดโชว์วิธีการทำ SFX (Special Effect) การขี่ไม้กวาดบิน ตรงนี้ สามารถเข้าไปลองบินขี่ไม้กวาดได้เหมือนจริง แต่จะถ่ายรูปไม่ได้ |
![]() |
ตรอก Daigon Valley ฉากไฮไลท์ที่ Harry Potter Studiosทุกแห่งบนโลกต้องมี เป็นถนนช้อปปิ้งสินค้าที่เหล่าพ่อมดต้องมาเดินเลือกซื้อของ มีของขาย ซึ่งในหนัง การจะเข้ามาที่นี่ได้ จะต้องยังร้านหม้อใหญ่รั่วที่ตั้งอยู่บนถนน Charing Cross เดินไปหลังร้าน มองหาถังขยะ จากนั้นนับอิฐขึ้นไป 3 ก้อนเหนือถังขยะ แล้วนับต่อไปทางขวาอีก 2 ครั้ง แล้วก็เคาะอีก 3 ครั้ง ก็จะมาโผล่ที่ตรอก Diagon |
![]() |
ปิดท้ายทัวร์ด้วย Hogwarts Castle Model ปราสาทฮอกวอตส์จำลอง ขนาดใหญ่พอสมควรให้เราได้เห็น Detail กันอย่างชัดๆ ใช้คนสร้างประมาณ 86 คน และเส้นใยไฟเบอร์ออพติกกว่า 2,500 เส้น |
![]() |
จบทัวร์ก็ออกมาช้อปปิ้งกันต่อ ที่ร้านขายของที่ระลึกของทางสตูดิโอ จะมีอะไรบ้างเชิญชมกัน เยอะมากๆ เยอะกว่าของทาง US๋J แบบเทียบกันไม่ได้ ใครเป็นสาวกแฮรี่ แนะนำห้ามพลาด |
![]() |
Butterbeer มีแบบขวด โหลดกลับไปกินที่ไทยได้ด้วย |
![]() |
ออกจากร้าน ใครหิวขนมสามารถมาแวะทานเค้กอร่อยๆ ได้ที่ Frog Cafe ตรงโถงด้านนอกตอนที่เราเข้ามา |
![]() |
เน้นหนักไปที่ขนมเค้กหลากหลายรสชาติให้ลองชิม |